วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความผิดหวัง

ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผิดหวังมาก่อน ไม่ว่าจะเรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องเรียน เรื่องความรัก หรือเรื่องงาน ฯลฯ เคยถามตัวเองหรือไม่ครับว่า ทำไมเราถึงผิดหวัง คำตอบก็คือ เรามีความหวัง แล้วเราไม่ได้ดั่งที่เราหวังไว้ ก็เลยรู้สึกผิดหวัง เมื่อไหร่ที่ท่านรู้สึกผิดหวังในชีวิตแล้ว ท่านยังมีหวังต่อไปหรือไม่ครับ
ชีวิตคนเรานั้นอยู่ด้วยความหวังนะครับ ถ้าคนเราไม่มีความหวัง ผมคิดว่าเราคงใช้ชีวิตแบบซังกะตาย เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร การที่คนเรามีชีวิตอยู่นั้น แปลว่า แต่ละคนจะต้องมีความหวังอะไรสักอย่างในชีวิตของเรา ซึ่งแต่ละคนก็มีแตกต่างกันออกไป
แต่ถ้าเมื่อไหร่เราผิดหวังขึ้นมา พฤติกรรมของคนเราต่อการผิดหวังก็แตกต่างกันออกไปอีก บางคนเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย ตีโพยตีพายไปต่างๆ นานา บางคนผิดหวังแล้วก็โทษชาวบ้านไปทั่วว่าคนอื่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราผิดหวัง บางคนผิดหวังแล้วก็เลิกหวังทุกอย่างในชีวิต จากนั้นก็ใช้ชีวิตไปตามยถากรรม
โดยปกติชีวิตคนเราต้องประสบกับทั้งสองด้าน ก็คือ ทั้งสมหวัง และผิดหวัง เพราะนี่คือชีวิตครับ คงไม่มีใครที่สมหวังไปทุกเรื่อง และก็ไม่มีใครที่ผิดหวังไปทุกเรื่องเช่นกัน นี่แหละครับ ที่เขาเรียกกว่ารสชาติของชีวิต
การที่เราผิดหวัง เราควรจะลุกขึ้นมาใหม่ เราไม่สูญเสียความหวังอื่นๆ ในชีวิต ไม่ใช่แค่ผิดหวังเรื่องเดียว แต่ไปทำให้ความหวังเรื่องอื่นๆ จบไปด้วย ตัวอย่างความผิดหวังที่รุนแรงมากก็คือ ผิดหวังในเรื่องของความรัก เพราะบางคนจะนำเอาความผิดหวังในเรื่องนี้ไปต่อยอดทำให้ความหวังในเรื่องอื่นต้องปิดกันไปหมดเลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ ความหวังในเรื่องการเรียน หรือแม้แต่เรื่องของการทำงาน
คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น จะต้องเปิดโอกาสให้กับความหวังใหม่ๆ เสมอ และมักจะคิดเสมอว่า ชีวิตของเรานั้นไม่มีทางที่จะหมดหวัง ของเพียงแค่เรามีความหวัง และจากนั้นก็พยายามสร้างชีวิตของเราให้ไปสู่เป้าหมายที่เราหวังไว้
ความผิดหวังเป็นเพียงเครื่องมือที่บอกให้เรารู้ว่า เรายังทำไม่เต็มที่ ตรรกะของมันก็คือ ถ้ายังทำไม่เต็มที่ ก็ขอให้ครั้งหน้าทำให้เต็มที่กว่านี้ แล้วเราก็จะสมหวัง ไม่ใช่คิดแค่ว่า เมื่อผิดหวังแล้ว ก็จะไม่ทำอะไรอีกเลย ถ้าคิดแบบนี้ชีวิตเราจะเข้าสู่ทางตันสักวันหนึ่งครับ
ดังนั้นในปีที่ผ่านมาถ้าท่านใดที่รู้สึกว่าผิดหวังกับชีวิตมากกว่าสมหวัง ก็ขอให้มองโลกในแง่บวก และสร้างความหวังอันใหม่ขึ้นมา อย่าเพิ่งท้อนะครับ จากนั้นถ้าเรารู้ว่าที่เราผิดหวังในปีนี้นั้น เป็นเพราะเรายังทำไม่เต็มที่ ก็ขอให้เราเต็มที่กับมันอีกสักครั้ง ทำให้สุดๆ ไปเลยครับ ถ้าคราวนี้ยังไม่ได้ดั่งที่เราหวังอีก อย่างน้อยก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าเราได้ลงมือเต็มที่แล้ว ดีกว่าทำไม่เต็มแล้วมานั่งเสียดายทีหลังว่ารู้งี้ทำให้เต็มที่ดีกว่า
ผมเชื่อว่า การที่คนเราทำอะไรแบบเต็มที่จริงๆ แล้ว ความผิดหวังไม่ค่อยเกิดขึ้นกับคนๆ นั้นหรอกครับ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองดูกันสักตั้งหนึ่งครับ

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความเหงา....ความหวัง....ความรัก

อาการเหงา คืออาการของคนที่ต้องการความสนใจ เอาใจใส่จากใครๆ..
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ใครๆ = คนที่เราเอาใจไปยึดติดเอาไว้..
แล้วอาการเหงาๆ เฉาๆเนี่ยมันก็จะเกาะใจเราอยู่ไปจนกระทั่ง
# เมื่อได้เราได้รับความสนใจ ใส่ใจจากใคร
โดยเฉพาะจากคนนั้นที่เราเอาใจไปทากาวตราช้างติดเอาไว้
หรือ # เมื่อเราไปเจอกับใครคนใหม่ หรืออะไรใหม่ๆ
ที่มีแรงดึงดูดที่แรงกว่ากาวตราช้างที่ติดใจเรากับคนนั้นไว้..
โดยไม่ทันรู้ตัว เราก็จะเริ่มทากาวตราช้างไปติดกับสิ่งใหม่ที่ดึงเราออกไป
ในขณะที่กาวเก่าก็จะเริ่มหมดสภาพความเหนียวลงเรื่อยๆ..
และแล้วความเหงาก็จะหายไป....... ชั่วคราว
ใช่แล้ว แค่ชั่วคราว เพราะสองอย่างข้างบนนี้ไม่เคยทำให้ใครหายเหงาได้ตลอดไปเลย..
เหตุผลเดียวคือ.. เราไม่สามารถบังคับใครก็ตามให้มาเป็นอย่างใจเราได้ตลอดไป
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ได้รับความใส่ใจอย่างที่ใจเราต้องการ.. ความเหงาก็จะกลับมาอีก..

ความหวัง คือ ความเชื่อว่าเป็นไปได้ และจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า เป็นพลังผลักดันให้ชีวิตดำเนินไป ทำให้เรามีแรงบันดาลใจ มีความมุ่งมั่น พยายาม อดทน ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ได้ ต่างคนต่างมีความหวังที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนล้วนทำทุกอย่าง เพื่อให้ความหวังนั้นประสบผลสำเร็จ

แต่ถึงอย่างไร เมื่อมีความหวังก็ย่อมมีความผิดหวังบ้างเป็นของที่คู่กัน เมื่อตั้งความหวังกับสิ่งใดจึงควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้จริงด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องพบกับความผิดหวังบ่อยนัก และควรเตรียมใจให้พร้อมยอมรับกับความผิดหวังนั้นด้วย พึงระลึกไว้ว่าสิ่งต่างๆในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้นได้ ไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ได้ทุกสิ่งอย่าง

ความหวัง ทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ แต่ความผิดหวังก็ทำให้ท้อแท้ หดหู่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เช่นกัน

ความรักเป็นความรู้สึก สภาพและเจตคติต่าง ๆ ซึ่งมีตั้งแต่ความชอบระหว่างบุคคล ไปถึงความพึงพอใจ อาจหมายถึงอารมณ์การดึงดูดและความผูกพัน (attachment) ส่วนบุคคลอย่างแรงกล้าในบริบททางปรัชญา ความรักเป็นคุณธรรมแสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์ ความรักเป็นแก่นของหลายศาสนา อย่างเช่นในวลี "พระเจ้าเป็นความรัก" ของศาสนาคริสต์รืออากาเปในสังฆวรสารความรักยังอาจอธิบายได้ว่าเป็นพฤติกรรมต่อตนเองหรือผู้อื่นซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเห็นอกเห็นใจ หรือความเสน่หา

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ใครเป็นเก๊าท์บ้าง...มีสูตรง่ายๆมาให้คับ


ใครเป็นเก๊าท์บ้าง...มีสูตรง่ายๆมาให้คับ...(lovely)(lovely)(lovely)

󾭊 ของดีมาแล้ว.....(แชร์ต่อมา)

ชาตะไคร้ใบเตย แก้โรคเก๊าต์ได้ดีจนเหลือเชื่อ!!
คำบอกเล่าจากหมอพื้นบ้านที่เคารพท่านหนึ่งได้กรุณาให้สูตร
"ชาตะไคร้ใบเตย แก้โรคเก๊าต์"
ปรกติจะมียาสำหรับล้างพิษโลหิตแก้โรคเก๊าต์ให้คนไข้ซึ่งจะมีสมุนไพรทั้งคู่อยู่ในยาอยู่แล้ว แต่สูตรนี้เห็นว่ามีประโยชน์และทำได้เองง่ายๆที่บ้าน แนะนำว่าเป็นของสดๆจะได้ผลดีกว่าหลายเท่าคับ

ส่วนประกอบ
1. ตะไคร้ 4-5 ต้น
2. ใบเตย 2-3 ใบ
3. น้ำสะอาด 2 ลิตร
ต้มสมุนไพรจนเดือด พอเดือดลดไฟลง ต้มต่ออีก 15 นาที ห้ามเปิดฝาโดยเด็ดขาด ครบ 15 นาที ทิ้งไว้ให้เย็น ดื่มแทนน้ำเปล่าติดต่อกัน 1 สัปดาห์ จะล้างกรดยูริคในเลือด สาเหตุของอาการปวดเข่าจากโรคเก๊าต์ได้ดีมากๆแบบไม่ต้องใช้ยาเลยครับ
สูตรนี้ได้รับการยืนยันจากคนไข้เองว่า ได้ผลดีเกินคาด!!

(ผลข้างเคียงคือ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมงคับ)

Share ต่อๆกันไปคับ ยาง่ายๆ ไม่อันตราย ได้ผลดี และประหยัดเงินเห็นๆ(^^)
󾭷️󾭷️󾭷️󾭷️󾭷️󾭷️󾭷️󾭷️

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557





                      เจ้าดอกไม้อันตรายนี้ มีชื่อว่า Wisteria จัดเป็นพืชตระกูลถั่ว พวกมันพบได้ในหลายพื้นที่ของโลก เช่น จีน ญี่ปุ่น อเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้น wisteria แข็งแรงมากและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มันเป็นสายพันธุ์ที่รุกรานป่าอื่นในหลายพื้นที่ โดยเฉเพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันสามารถเจริญเติบโตได้ในดินคุณภาพต่ำ แต่มันชอบดินอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื่น เหมือนพืชอื่นๆมากกว่า

มันเป็นพืชที่อาศัยการยึดเกาะติดกับที่ต่างๆเช่น กำแพง หรือต้นไม้อื่น wisteria ที่ใหญ่ที่สุดมีความสูง 20 เมตร หนัก 250 ตัน อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

ต้น wisteria เป็นต้นไม้ที่มีดอกที่สวยงาม และมีกลิ่นหอม แต่อย่าหลงความสวยของมันล่ะ เพราะหากกินดอกของมันเข้าไปอาจอาเจียน วิงเวียน ปวดหัว จนถึงขั้นช็อกได้



ที่มาhttp://wowboom.blogspot.com/

ปาท่องโก๋เป็นมายังไงใครรู้บ้าง




                        สมัยราชวงศ์ซ้อง ขุนนางกังฉินกับภรรยา ร่วมกันวางกลอุบายใส่ร้ายว่าแม่ทัพงักฮุยและแม่ทัพตงฉินหนีทัพ ทำให้แม่ทัพงักฮุยอันเป็นที่รักของประชาชนถูกประหารชีวิต ประชาชนต่างโกรธแค้น ขุนนางกังฉินและภรรยาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งปกติชาวบ้านจะนิยมทานแป้งทอด จึงมีความคิดปั้นแป้งคู่แทนขุนนางกังฉินและภรรยานำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ และก่อนจะทานก็จะฉีกออกเป็นสองท่อน เพื่อเป็นการระบายแค้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก วารสาร อพวช. พฤศจิกายน 2555

กระเพาะอาหารเราขยายใหญ่ได้จริงไหม


กระเพาะอาหาร

                 

                       กระเพาะอาหารอยู่ทางด้านซ้ายของด้านล่างใต้กระบังลม ในสภาพไม่มีอาหารบรรจุอยู่มีปริมาตรเพียง 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร แต่เมื่อรับประทานอาหารจะขยายได้ถึง 10 - 40 เท่า แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ฟันดัส ( Fundus) เป็นส่วนที่เป็นรูปโดมคล้ายบอลลูนนูนขึ้น บอดี้ ( Body) เป็นส่วนตรงกลางของกระเพาะอาหาร อยู่ติดต่อกับลำไส้


กระเพาะอาหารมีกล้ามเนื้อหูรูด (Sphincter muscle)

      กระเพาะอาหารมีกล้ามเนื้อหูรูด 2 แห่ง คือ
- Cardiac sphincter เป็นกล้ามเนิ้อคล้ายหูรูดส่วนที่ติดต่อกับหลอดอาหาร ป้องกันไม่ให้อาหารที่อยู่ในกระเพาะเคลื่อนที่ย้ายกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร
- Pyloric sphincter เป็นกล้ามเนื้อหูรูดที่ติดต่อกับลำไส้เล็กตอนต้น ป้องกันไม่ให้อาหารที่อยู่ในกระเพาะอาหารเคลื่อนที่ลงสู่ลำไส้เล็กเร็วเกินไป

ผนังของกระเพาะอาหาร
        ผนังของกระเพาะอาหาร ประกอบด้วยกล้ามเนื้อเรียบ 3 ชั้น ชั้นนอกเป็นกล้ามเนื้อเรียบตามยาว ชั้นกลางเป็นกล้ามเนื้อวงตามขวางและชั้นในสุดเป็นกล้ามเนื้อที่วิ่งทะแยงในขณะที่ไม่มีอาหารอยู่ในกระเพาะอาหาร เยื่อชั้นใน ( Mucousmembrane ) จะพับซ้อนไปมาเป็นรอยจีบย่นตามยาวมากมายเรียกว่า รูกี ( Rugae) ซึ่งเป็นประโยชน์ในการเพิ่มพื้นที่ผิวในขณะกระเพาะอาหารขยายตัว ( กระเพาะอาหารไม่มี villus )


ภายในกระเพาะอาหารมีกลุ่มเซลล์ต่อมภายในกระเพาะอาหารมีกลุ่มเซลล็ทึ่สำคัญ 4 ชนิด


- Mucous cell ทำหน้าที่ สร้างน้ำเมือก มีฤทธิ์เป็นเบสไปฉาบผิวของกระเพาะไม่ให้เป็นอันตราย
- Parietal cell หรือ ออกซินติก เซลล์ ( Oxyntic cell ) สร้างกรดไฮโดรคลอริก เข้มข้น เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
- Chief cell หรือ ไซโกมาติก เซลล์ ( Zygomatic cell ) สร้าง มี 3 ชนิด
(1) pepsinogen ( Inactive )
(2) prorennin ( Inactive )
(3) gastric lipase


หน้าที่สำคัญของกระเพาะอาหาร มี 4 ประการ คือ - เป็นที่เก็บอาหารรอการย่อย
- เป็นอวัยวะย่อยอาหาร
- ลำเลียงอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กในอัตราที่พอเหมาะ
- ให้สารที่เรียกว่า Intrinsic factor ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมวิตามิน B12 สำหรับใช้ในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง
- ดูดซึม B12 , ยา , alcohol


* การอาเจียน เกิดจากการหดตัวอย่างรวดเร็วของ กระบังลม และ เกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้องอย่างรุนแรงทำให้ปริมาณช่องท้องลดลงอย่างกะทันหัน ทำให้ความดันในช่องท้องลดลงอย่างรวดเร็วแต่ผิดจังหวะ เพราะหลอดลมเปิดอยู่มีกรดHCl ออกมาพร้อมกันอาจเป็นเพราะได้กลิ่นหรือเห็นภาพไม่พึงประสงค์,การกระแทกอย่างรุนแรง*

+ การที่เนื้อเยื่อด้านในของกระเพาะอาหารไม่ถูกเอนไซม์เพปซินและกรดไฮโดรคลอริกทำลาย เนื่องจาก +

1. มีสารเมือกที่มีทธิ์เป็นเบสเคลือบผนังกระเพาะช่วยป้องกันได้

2. เยื่อบุกระเพาะมีการแบ่งเซลล์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างเซลล์ขึ้นมาทดแทนพวกที่อาจถูกทำลายไป แต่อย่างไรก็ดี แผลใน กระเพาะอาจเกิดขึ้นได้ ถ้ามีการหลั่งกรดไฮโดรคลอริกออกมามากกว่าปกติ

                    อาหารจะคลุกเคล้าและถูกย่อยบางส่วนในกระเพาะอาหาร ทำให้มีสภาพค่อนข้างเหลว เรียกว่า (ไคม์ Chyme) แล้วกระเพาะจะบีบตัวให้อาหารผ่านกล้ามเนื้อหูรูดไพโลริกสฟิงค์เตอร์ลงสู่ลำไส้เล็กต่อไป อาหารจะอยู่ในกระเพาะ ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง

ทำไมหอยนางรมถึงเป็นอาหารเจ



               หอยนางรมก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารเจได้ เนื่องจากเชื่อกันว่าเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน(พระโพธิสัตว์กวนอิม) ซึ่งพาประชาชนส่วนหนึ่งทีนับถือในพระพุทธศาสนาหนีจากการเข่นฆ่าจากพระเจ้าเมี่ยวจวงลงเรือออกทะเลไป พอนานๆวันเข้าเสบียงที่เตรียมมานั้นก็เริ่มจะหมดลงทุกทีจนหมด ผู้คนขาดอาหารเกิดความหิวโหย เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านทรงตั้งจิตอธิษฐานโดยเอาไม้พายจุ่มลงสู่ทะเลว่าหากสิ่งใดติดขึ้นมาก็จะทานสิ่งนั้นเป็นอาหาร ผลปรากฏว่ามีหอยนางรมติดไม้พายขึ้นมา ด้วยหอยนางรมเองก็ยอมปวารณาตนถวายแด่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านและเหล่าพุทธศาสนิกชน จากนั้นเป็นต้นมา หอยนางรมจึงสามารถทานเป็นอาหารเจได้ และถูกทำเป็นซอสปรุงอาหารผัดกับผักต่างๆ เช่น คะน้าน้ำมันหอย